วัฒนธรรมการนอนล้านนา
การนอน หมายถึงการเอนกายลงนอนที่แนวราบซึ่งจะหลับหรือไม่ก็ตาม เรื่องของการนอน ชาวล้านนามีวัฒนธรรมในการนอนหลายประการ ทั้งพฤติกรรมในการนอน บริเวณที่ควรนอน บริเวณหรือสถานที่ที่ไม่ควรนอน ตลอดจนความเชื่ออื่นๆ อีกมากมาย
พฤติกรรมในการนอนโบราณสั่งสอนมาแต่ปางบรรพ์ไว้ อาทิ คำกล่าวว่า
อย่านอนเหล้นดาบ อย่าคาบนมเมีย
คือ เวลานอนไม่ควรนำของมีคมอย่างดาบมาเล่น เพราะอาจเกิดอันตรายได้เสมอ ความหมายแฝง คืออย่าวางใจหรือเลินเล่อต่อท่าทีของศัตรู ส่วนอย่าคาบนมเมียนั้นท่านหมายถึงว่า อย่ามัวแต่ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับกามคุมจนไม่มีเวลาปฏิบัติภารกิจอื่น
อย่านอนกินข้าว
เหตุผลคงเป็นเพราะอาการนอนนั้นคงไม่เหมาะที่จะรับประทาน เพราะสรีระไม่พร้อมที่จะรับอาหารเข้าสู่ร่างกาย คำกล่าวนี้มักมีการขู่เด็กๆ ว่าถ้านอนกินข้าวจะกลายเป็นงู
กินข้าวแล้วนอน ผีปันพรวันเจ็ดเทื่อ
คำกล่าวนี้ หลายท่านเข้าใจว่า เป็นคำสำนวนที่มีความหมายเชิงประชดประชันว่า กินอิ่มแล้วเอาแต่นอนสบาย ไม่ยอมทำงาน ผีจะสาปแช่งวันละเจ็ดครั้ง แต่อันที่จริงแล้ว คำว่า “ผี” โบราณหมายถึง “เทวดา” “ผีให้พร” คือเทวดาให้พร เพราะฉะนั้นจึงแปลความหมายว่า กินข้าวแล้วควรพักผ่อนก่อนลงมือทำงาน สุขภาพจะแข็งแรงเหมือนได้รับพรจากเทวดาวันละเจ็ดครั้ง เพราะถ้าลงมือทำงานทันที สุขภาพจะทรุดโทรมเร็วก่อนวัยอันควร
หื้อดักเมื่อกินข้าว หื้อดักเมื่อเข้านอน
คำกล่าวนี้มีเหตุผล อย่างน้อยสองประการ กล่าวคือ ประการแรก ขณะทานข้าวเมื่อส่งเสียงผีตามอยได้ยินจะรู้ตำแหน่งและจะมาแย่งกิน ทำให้อาหารสิ้นเปลืองหรือหากมีเสียงดังตอนเข้านอน ผีอาคันตุกะ คือ สัมภเวสี จะรู้ตำแหน่งที่นอน อาจมาทำร้ายได้ ประการที่สองไม่ว่าผีร้ายหรือคนร้าย เมื่อทราบตำแหน่งขณะกินข้าวหรือเข้านอน จะถือโอกาสทำร้าย เพราะคำว่า "ข้าว"หรือ "เข้า" เป็นคำที่เหมาะสมที่จะกระทำร้ายได้โดยสะดวก คือ เข้าสิงก็สะดวก ยิงก็เข้า แทงหรือฟันก็เข้า ไม่ว่าจะมีเครื่องรางหรืออาคมขลังเป็นเข้าทั้งนั้น แม้กระทั่งคุณไสยที่มีคนมุ่งร้ายปล่อยมาก็เข้าสู่ร่างกายโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้
อย่านอนเอาตีนไปทางหัว
คือ อย่านอนในลักษณะเอาเท้าชี้ขึ้นทิศหัวนอน เอาหัวลงมาปลายที่นอน เพราะสิ่งที่เคารพนับถือตลอดจนเทวดาที่คุ้มครองอยู่หัวนอน ลักษณะการนอนเช่นนี้ แสดงว่าไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัว ไม่เคารพแม้กระทั่งตัวเอง ดังนั้นหากผู้ใดมีพฤติกรรมการนอนเช่นนี้ ย่อมไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองรักษา
อย่านอนเบ่นหัวไปทางเหนือแลวันตก
ชาวล้านนาเชื่อว่าทิศเหนือเป็นทิศแห่งความตายที่เรียกว่า “ทิศผีตาย”
เป็นทิศสีดำมีท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวัณณ์เจ้าแห่งผีสถิตอยู่ สังเกตได้ว่า กองฟอน (ล้านนาเรียก “เตาเอ่า”) ทุกป่าช้าจะหันด้านหัวศพไปทางทิศเหนือ ส่วนทิศตะวันตกเป็นทิศแห่งการตกต่ำ ทิศแห่งการอำลาและสูญสิ้น จึงมีข้อห้ามว่า อย่านอนหันหัวไปทิศเหนือเละทิศตะวันตก
ยิงนอนซ้าย ชายนอนขวา
เป็นคติความเชื่อที่มีมาแต่โบราณว่าผู้หญิงต้องนอนด้านซ้าย ผู้ชายต้องนอนด้านขวา เป็นต้น
บริเวณที่ควรนอน
ในเคหสถานควรนอนใน “ห้องหอ เฮือนคำ” คือห้องนอน หรือบริเวณเติ๋น คือบริเวณโล่งที่เสมอกับห้องนอน และหากเป็นนอกเคหสถานควรนอนในที่จัดไว้สำหรับเป็นที่นอน
บริเวณที่ไม่ควรนอน
สถานที่หรือบริเวณที่ไม่ควรนอน โบราณกำหนดไว้ดังปรากฎในเอกสารโบราประเภทพับสาวัดศรีโคมคำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ว่า “อันบ่ควรนอนมีหนทางหลวง ๑ ทางแยก ๑ ที่เกาะดอนซาย ๑ ป่าช้า ๑ ที่ท้าวพระยา ๑ ที่พระเจ้าที่พระสังฆะเจ้า ๑ พื้นเยียข้าว ๑ เรือนแม่กำลัง ๑ ที่อันท่านเหล้นพันธนันนึ่งแล”
แปลความว่า สถานที่ที่ไม่ควรนอนได้แก่ ทางเส้นใหญ่ ทางแยก เกาะดอนทราย ป่าช้า ที่อันท้าวพระยาผู้มีอำนาจอยู่อาศัย ที่อันเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า ที่นั่งที่นอนของพระสงฆ์ ใต้ถุนยุ้งข้าว บ้านเรือนหรือที่อยู่ของโสเภณี และบริเวณที่เป็นบ่อนการพนันหนทางหลวงเป็นที่สัญจรของสรรพสิ่งทั้งมนุษย์และอมนุษย์
ยิ่งเป็นทางแยกก็ยิ่งเป็นที่สัญจรขวักไขว่ มีทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดีชุมนุมกันอยู่ เกาะดอนทรายก็เช่นกันย่อมมีสิ่งทั้งเป็นมงคลและอัปมงคลไหลมาตามน้ำแล้วมารวมกันอยู่ ส่วนป่าช้าเป็นที่รวมพลของผีทั้งปวง
บริเวณทั้งหมดดังกล่าวจึงไม่เหมาะสำหรับเป็นสถานที่อันควรนอน ด้านที่อยู่ของท้าวพระยาผู้มีอำนาจ เป็นที่อันเต็มไปด้วยอันตรายจากอำนาจอาชญาของท้าวพระยา และบริเวณที่ถูกจัดให้เป็นที่ประทับของพระบรมศาสดาหรือที่อยู่ของพระสงฆ์ เป็นสถานอันสูงส่งไม่ควรนอนที่อันเป็นสถานอโคจร ได้แก่ บ้านเรือนหรือที่รับแขกของหญิงโสเภณีบ่อนการพนันทุกชนิด ย่อมไม่เหมาะที่จะเป็นที่หลับนอน
ข้อมูลจาก หนังสือ ร้อยสาระสรรพล้านนาคดี เล่มที่ 3 เขียนโดย อาจารย์สนั่น ธรรมธิ
5 | |
4 | |
3 | |
2 | |
1 |