ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นประเพณีที่สืบเนื่องมาจากประเพณีการทำบุญออกพรรษา คำว่า “เทโว” มาจากคำว่า “เทโวโรหณะ” แปลว่าการหยั่งลงจากเทวโลก หมายถึง การเสด็จลงจากเทวโลกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลังจากเสด็จเทศนาโปรดพระพุทธมารดาบนสวรค์ชั้นดาวดึงส์ตลอดพรรษที่ ๗ หลังจากทรงตรัสรู้ เรื่องราวดังกล่าวมีตำนานเล่าว่า หลังจากพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พระองค์ได้เสด็จไปประกาศศาสนาทั่วชมพูทวีป ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ พาราณสี สาวัตถีตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นราชปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพุทธสาวกและพระประยูรญาติทั้งหลายให้บรรลุมรรคผลตามสมควรแก่อุปนิสัยของแต่ละบุคคลมาเป็นลำดับถึง ๖ พรรษา จากนั้นพระองค์ทรงรำลึกถึงพระนางสิริมหามายาพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้นในพรรษาที่ ๗ หลังจากทรงตรัสรู้ พระองค์จึงได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษา ทรงเทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดาตลอดพรรษา ครั้นถึงวันออกพรรษา พระพุทธองค์ได้ทรงเสด็จลงสู่โลกโดยเสด็จสถิตเหนือยอดเขาสิเนรุราช เมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นเครื่องสักการบูชาของเหล่าเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายแล้วจึงทรงเปิดโลกให้เทวดาและมนุษย์ทั้งหมดได้มองเห็นสวรรค์ โลกมนุษย์และนรกภูมิโดยตลอด
ดั้งนั้นในวันนี้จึงเรียกว่าวัน “พระเจ้าเปิดโลก” อีกชื่อหนึ่ง
การเสด็จลงจากเทวโลกนั้น ตำนานกล่าวว่ามีปัญจสิงขรคันธัพพเทวบุตรถือพิณดีดขับร้องนำเสด็จในเบื้องหน้ามีบันไดทิพย์ ๓ บันได คือ บันไดทองอยู่ด้านขวา บันไดเงินอยู่ด้านซ้าย บันไดแก้วอยู่ตรงกลาง เชิงบันไดทั้งสามจรดลงที่เมืองสังกัสสนคร บันไดทองเป็นทางลงของหมู่เทวดา บันไดเงินเป็นทางลงของหมู่พรหม และบันไดแก้ว เป็นทางเสด็จของพระพุทธองค์ เมื่อทรงเสด็จถึงโลกมนุษย์ที่เมืองสังกัสสนคร พระพุทธองค์ได้ทรงนำเหล่าพุทธสาวกออกรับบิณฑบาตจากประชาชนที่ไปรอเฝ้ารับเสด็จเพื่อทำบุญตักบาตรอย่างหนาแน่น ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธจึงถือเอาวันออกพรรษา คือ วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันคล้ายวันเสด็จลงจากเทวโลก จึงนิยมทำบุญตักบาตรกันเป็นกรณีพิเศษ มีการจำลองเหตุการณ์ โดยอัญเชิญเอาพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรนำหน้าพระสงฆ์จำนวนมาก บิณฑบาตจากวัดที่อยู่ระดับสูง เช่น วัดที่อยู่เนินเขา แล้วตักบาตรโดยเรียกว่า “ตักบาตรเทโว” กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมยิ่ง จึงยึดถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบต่อกันมา
สำหรับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้จัดงานตักบาตรเทโวต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ปีนี้จะจัดให้มีขึ้นในเช้าของวันเสาร์ที่ ๓ตุลาคม ๒๕๖๓ นี้ ณ ถนนสายวัฒนธรรม ภายในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มงานประมาณ ๐๖.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไป งานนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้นิมนต์พระสงฆ์ไปรับบิณฑบาตถึง ๕๐๐ รูป
บุญใหญ่อย่างนี้ ปีหนึ่งมีครั้งหนึ่ง จึงไม่ควรพลาดโอกาสที่จะพาครอบครัวไปตักบาตร เพื่อความเป็น สิริมงคลและเป็นมหากุศลผลบุญอันจะนำพาชีวิตให้พบแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปตราบซึ่งนานเท่านาน
เขียนโดย อาจารย์สนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มช.
5 | |
4 | |
3 | |
2 | |
1 |