“ดอกไม้กินได้”
คนเราต้องกินผักเพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้องกินสม่ำเสมอและให้มากพอ ในสมัยโบราณ คนเราใช้พืชผักรอบตัวเป็นยารักษาอาการป่วย คนโบราณกินทั้งราก ต้น ใบ ดอก มีแบบกินสด และกินสุก แล้วแต่ว่ามีจุดประสงค์อะไร ดังนั้นไม่แปลกอะไรที่เราจะเอาดอกไม้มากินที่เราคุ้นเคยกันดีเช่น แกงส้มดอกแค แกงแคดอกต้าง สองแกงนี้ใช้แก้ไข้หัวลมเช่นเดียวกันแต่ดอกไม้กินไม่ได้หมดทุกอย่าง เพราะบางอย่างเป็นพิษ เช่น ดอกยี่โถ ดอกชวนชม เนื่องจากมีไกลโคไซด์บางตัว ที่จะเป็นอันตรายต่อหัวใจ อย่างเช่นดอกไม้ที่สามารถกินได้ตามฤดูกาล
คนไทยนิยมกินพืชผักตามฤดูกาลเสมอมา ดังนั้นในฤดูต้นไม้ผลิดดอก เราก็เก็บมากินเป็นอาหาร ส่วนมากเอามาลวกหรือต้มจิ้มน้ำพริก ชุบแป้งทอด เอามาแกง เอามาต้มน้ำดื่ม ฯลฯ เช่น
ดอกโสน ลวกจิ้มน้ำพริก ทำขนม
ดอกแคแดง ลวกจิ้มน้ำพริก ใช้แกงส้ม
ดอกขจร ทำยำดอกขจร ใช้ใส่ไข่เจียว
แคหางค่าง หรือแคนา ลวกจิ้มน้ำพริก ยัดไส้หมูแล้วทอด
ดอกพะยอม ชุบแป้งทอด แกงส้ม
ดอกชมนาด ใส่ข้าวแช่ ทำให้หอมข้าวใหม่
ดอกลีลาวดี ชุบแป้งทอด
ดอกอัญชัน ต้มน้ำดื่ม ใส่ข้าวยำ
ดอกดาหลา ซอยใส่ข้าวยำ
ดอกกวางตุ้ง แกง ทำผักกาดจอ ลวกจิ้มน้ำพริก
ดอกงิ้ว เกสรตากแห้ง เอามาแช่น้ำแล้วใส่แกงแค ใส่น้ำเงี้ยว
ดอกครั่ง ใส่ส้า หรือยำแบบพื้นเมืองล้านนา
ข้อมูลอ้างอิงจาก : พญ.ลลิตา ธีระสิริ (ผู้อำนวยการบัลวีเวียงพิงค์ศูนย์ธรรมชาติบำบัด)
5 | |
4 | |
3 | |
2 | |
1 |