5 มกราคม 2565
3k
Share on
 

รูปแบบและลักษณะบ้านของไทดำ

 

 

รูปแบบและลักษณะบ้านของไทดำ

จะเป็นเรือนไม้ยกพื้นสูง    มีบันไดขึ้นสองทาง  คือด้านหน้าเรือนและด้านหลังของเรือน  วัสดุที่ใช้สร้างจากไม้จริงและไม้ไผ่ผสมกัน  มีส่วนประกอบอยู่  3  ส่วนที่ชัดเจน  คือเฉลียง  หรือ “กว้าน” อยู่ทางด้านหัวเรือน  ส่วนกลางเรือนจะเป็นที่อยู่หลับนอน  มีการกั้นผนังด้วยไม้อย่างแน่นหนาและส่วนท้ายเรือนจะเป็นชาน  ภายในตัวเรือนเป็นที่โล่งตามแนวยาว  จำนวนของห้องเสาจะเป็นเลขคี่ตามความเชื่อที่เป็นมงคล[1]  มีการแบ่งส่วนของห้องนอนไว้ตามช่วงเสาในแนวยาวด้วย  การแบ่งห้องนอนจะกั้นตามช่วงเสาซึ่งจะทราบจำนวนสมาชิกที่อาศัยอยู่ตามห้องที่กั้นด้วยผ้าม่าน  ห้องแรกของบ้านจะเป็นห้องของผีประจำตระกูล  ส่วนห้องนอนของผู้อาวุโสหรือพ่อแม่จะอยู่ถัดมา  จากนั้นก็จะเป็นห้องของลูกคนโตไล่มาจนถึงลูกคนเล็ก 

ในอดีตชาวไทดำนิยมทำเรือนแบบหลังคาโค้งทรงกระดองเต่า  ซึ่งมีขนาดเล็กและเป็นแบบดั้งเดิมที่มีการใช้ไม้ไผ่เป็นโครงสร้างส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยแข็งแรง  ส่วนเรือนแบบหลังคาตรง  เป็นรูปทรงของเรือนในสมัยนี้ ใช้ไม้จริงเป็นโครงสร้างผสมกับไม้ไผ่ที่ใช้เป็นส่วนประกอบอื่นๆ  เช่น  ฝาเรือน  ระเบียง  เป็นต้น

 

การแบ่งห้องนอนของชาวไทดำ

ส่วนประกอบของเรือนไทดำ

  1. บันได  เรือนไทดำจะมีทางขึ้นเรือนทั้งด้านหน้าและด้านหลังเรือน หากในสังคมที่เคร่งครัดผู้หญิงจะสามารถใช้ได้เพียงบันไดทางหลังเรือนเท่านั้น  ส่วนใหญ่บันไดของเรือนที่อยู่ในชนบทจะไม่มีราวบันได  แต่บันไดของเรือนที่อยู่ในเมืองจะเพิ่มความปลอดภัยและความสวยงาม  ในการตกแต่งราวบันไดด้วยการฉลุไม้อย่างง่ายๆ
  2. หลังคา  วัสดุที่ใช้ทำหลังคาจะเป็นหญ้าคา  กระเบื้องทรงเหลี่ยมหรือกระเบื้องว่าว และกระเบื้องลอน  บางทีก็จะพบกระเบื้องที่ทำมาจากหินชนวน ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะประยุกต์ใช้ตามสิ่งแวดล้อมและความนิยมของแต่ละเมือง  ในเขตชนบทจะนิยมใช้หญ้าคามุงหลังคา  ส่วนเขตเมืองก็จะใช้กระเบื้องแทน  เหนือจั่วเรือนด้านหน้าเรือนจะมี  “เขากุด”  ประดับอยู่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเขาควาย  ทำจากไม้เป็นรูปแบบที่ต่างกันไปตามความต้องการของเจ้าของเรือนและช่าง ซึ่งสัมพันธ์กับสถานะทางสังคมของเจ้าของเรือน[2]  ปัจจุบันจะทำมาจากไม้สองชิ้นวางไขว้กันแล้วแกะลวดลาย

 

รูปแบบของเขากุดที่ทำมาจากไม้แกะเป็นลวดลายต่างๆ

เสา   ทำมาจากไม้จริงทั้งท่อน  เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทานสูงกว่าไม้ไผ่  รูปทรงของเสาเป็นทรงกระบอก  มีความยาวตั้งแต่พื้นจนถึงชายหลังคา  ลักษณะการตั้งเสาจะไม่ใช้วิธีการฝังแต่จะวางบนก้อนหินขนาดใหญ่โดยไม่มีการยึด  ปัจจุบันมีการปรับมาใช้ฐานรองที่ทำได้สะดวกโดยการหล่อเทปูนซีเมนต์ให้สูงขึ้นมาในระดับหนึ่ง  แล้วจึงนำเสาวางไว้บนฐานซีเมนต์นั้น

  1. คาน  โครงสร้างของคานใช้ไม้จริงเช่นเดียวกับเสา  ซึ่งมีทั้งการใช้ไม้ทรงกลมทั้งท่อนและแบบปรับแต่งไม่ให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม  วิธีการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ  นั้นจะใช้ลิ่มและเดือย  โดยช่างจะใช้สิ่วในการเจาะรูไม้และทำสลักเพื่อประกอบไม้เข้าด้วยกัน  วิธีการนี้จะทำให้โครงสร้างของเรือนแข็งแรง    ในส่วนของโครงสร้างหลังคาจะใช้ไม้ไผ่ในการยึดกระเบื้องและหญ้าคาเพราะเป็นวัสดุที่มีขนาดเล็กและเบา  ช่วยลดน้ำหนักของหลังคาได

 

โครงสร้างของเสาและคานของเรือน  เมื่อมองจากภายในเรือน

  1. ฝาเรือนและพื้น   เรือนแต่ละหลังจะมีการผสมผสานของวัสดุในการทำฝาเรือนหลากหลายชนิด  วัสดุที่นิยมใช้มี 3  ชนิดคือ  ไม้กระดาน  ไม้ไผ่สานและฝาที่ทำมาจากดินผสมกับฟางซึ่งมีลักษณะคล้ายปูน นิยมใช้มากในส่วนที่เป็นครัว  ไม้ที่ใช้ทำพื้นเรือนจะเป็นไม้จริงที่แต่งทรงให้เป็นแผ่น  บางหลังก็ใช้ไม้ไผ่ทั้งปล้องแล้วสับไม้ให้เป็นผืน  
  2. เรือนครัว เดิมทีชาวไทดำไม่มีเรือนครัวแยกออกมาอย่างเป็นสัดส่วนเหมือนปัจจุบันที่สร้างเรือนครัวแทนชาน  เพราะเตาหรือจี่ไฟในภาษาไทดำนั้นจะอยู่ภายในตัวเรือน  โดยเตามีลักษณะเป็นกระบะทรงสี่เหลี่ยม  มีก้อนหินวางอยู่  ใช้ฟืนและถ่านเป็นเชื้อเพลิง  ซึ่งเตาแบบนี้เหมือนกับที่คนไทยใช้กันในสมัยก่อน  เหนือเตาขึ้นไปจะมีไม้ไผ่สานเป็นแผงห้อยอยู่  เพื่อเก็บข้าวของเครื่องใช้ และวัตถุดิบเครื่องปรุงที่ใช้ประกอบอาหาร

 

 

 

เรื่องเเละภาพประกอบโดย : นางสาวฐาปนีย์ เครือระยา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่