11 พฤศจิกายน 2564
3k
Share on
 

ตำนานกาเผือก

 

กาเผือก

ธัมม์เรื่อง กาเผือก หรือ กาเผือกพระเจ้าห้าพระองค์ เป็นธัมม์ ที่มักใช้สวดกันในคืนยี่เป็ง ของล้านนาซึ่งเป็นการยืนยันถึงที่มาของการจุดประทีปโคมไฟในเทศกาลยี่เป็ง (ยี่เป็งคือ วันเพ็ญในเดือนยี่ หรือเดือนที่ 2 ของชาวล้านนา ตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสองของภาคกลาง)

เรื่องราวของแม่กาเผือก เป็นตำนานที่นำเอาความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัลป์มาร้อยเรียงเป็นธัมม์ แฝงคำสอนเรื่องความกตัญญู และการบำเพ็ญบารมีตามคติทางพุทธศาสนา โดยมีเรื่องเล่าว่า แม่กาเผือกตัวหนึ่งทำรังอยู่บนต้นมะเดื่อใกล้ฝั่งแม่น้ำคงคา และได้ออกไข่ไว้ 5 ฟอง อยู่มาวันหนึ่งแม่กาออกไปหาอาหารก็เกิดพายุพัดฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก ลมฝนได้พัดพาเอาไข่ของแม่กาเผือกตกลงไหลตามน้ำกระจายไปคนละทิศคนละทาง ฝ่ายแม่กาเผือกเมื่อกลับมาจากหาอาหารไม่เห็นไข่ลูกน้อยทั้ง 5 ก็ออกเที่ยวตามหาไปทั่วทุกสารทิศแต่ก็ไม่เจอ นึกว่าลูกทั้ง 5 ได้ตายจากไปแล้ว เกิดความโศกเศร้าเสียใจทำให้แม่กาเผือกต้องตรอมใจตายในที่สุด และด้วยกุศลบุญบารมีที่แม่กาเผือกได้กระทำไว้ ทำให้แม่กาเผือกได้ไปเกิดเป็นพรหมในพรหมโลก ส่วนลูกทั้ง 5 ของแม่กานั้นก็ถูกน้ำพัดพาไป

ไข่ใบแรก         แม่ไก่นำไปเลี้ยง

ไข่ลูกที่สอง       แม่นาค(หรืองู)นำไปเลี้ยง

ไข่ลูกที่สาม       แม่เต่านำไปเลี้ยง

ไข่ลูกที่สี่          แม่โคนำไปเลี้ยง(บางตำนานก็กล่าวว่าเป็นหญิงซักผ้า)

ไข่ลูกที่ห้า        แม่ราชสีห์นำไปเลี้ยง

 

เมื่อไข่ทั้งห้าใบฟักออกมา แล้วเติบใหญ่เป็นชายหนุ่มอายุได้ 16 ปี ก็อยากออกไปบวชเป็นฤๅษีอยู่ในป่า ชายหนุ่มแต่ละคนจึงได้ขออนุญาตแม่ของตัวเองเพื่อไปบวชตามที่ได้ตั้งใจไว้ แม่บุญธรรมทั้งห้าก็อนุญาตให้บำเพ็ญศีลภาวนาอยู่ในป่า ด้วยบุญบารมีที่สะสมมาชายหนุ่มก็ออกเดินทางไปบำเพ็ญศีลแล้วก็มาพบกันโดยบังเอิญ ต่างก็ไต่ถามความเป็นมาของกันและกัน จึงรู้ว่าเป็นลูกแม่กาเผือกเหมือนกันทั้งสิ้น จากนั้นฤๅษีหนุ่มทั้งห้าจึงตั้งสัจจาธิษฐานอยากพบแม่กาเผือกของตนเอง ด้วยคำอธิษฐานของลูกๆ แม่กาเผือกจึงได้เนรมิตร่างตนเองมาปรากฏต่อหน้าลูกทั้งห้า ก่อนจะจากกันลูกๆ จึงขอให้แม่กายื่นเท้ามาให้พวกเขากราบไหว้เพื่อระลึกถึงบุญคุณ แม่กาจึงใช้ฝ้ายพันติดกันเป็นเกลียว แล้วทำให้มีลักษณะเหมือนตีนกาสามแฉก เอาให้ลูกๆ นำไปใส่ผางจุดบูชา ระลึกถึงพระคุณ จากนั้นแม่กาก็กลับไปยังสวรรค์ตามเดิม ส่วนลูกๆ ก็กลับไปบำเพ็ญบารมี และจุดประทีปบูชาแม่กาเผือกสม่ำเสมอ จนตายไปแล้วเกิดอีกหลายชาติ ชาติสุดท้ายก็มาจุติเป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัลป์บนโลกมนุษย์ตามลำดับ

พระพุทธเจ้าองค์แรก      ชื่อพระกกุสันธะ            เพราะมีแม่บุญธรรมเป็นไก่

พระพุทธเจ้าองค์ที่สอง     ชื่อพระโกนาคมนะ         เพราะมีแม่บุญธรรมเป็นนาค(หรืองู)

พระพุทธเจ้าองค์ที่สาม     ชื่อพระกัสสปะ             เพราะมีแม่บุญธรรมเป็นเต่า

พระพุทธเจ้าองค์ที่สี่        ชื่อพระโคตมะ              เพราะมีแม่บุญธรรมเป็นโค

พระพุทธเจ้าองค์ที่ห้า      ชื่อพระเมตไตรยะ เพราะมีแม่บุญธรรมเป็นราชสีห์

 

                ในปัจจุบันเราอยู่ในช่วงของพระพุทธเจ้าองค์ที่สี่ คือ โคตมพุทธเจ้า มีพระนามเดิมในภาษาบาลีว่า สิทธัตถะ โคตม หรือมีชื่ออื่นๆ คือ พระศากยมุนี พระพุทธโคดม มีอายุพระพุทธศาสนา 5,000 ปี ซึ่งอีกประมาณ 2,500 ปีจะเกิดเหตุการณ์กลียุค แล้วพระพุทธเจ้าองค์ที่ห้า คือ พระเมตไตรยะ หรือพระศรีอาริยเมตตรัย จะจุติลงมาบนโลกเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาใหม่อีกครั้ง

          จากตำนานแม่กาเผือก จะเห็นแนวคิดของชาวล้านนา ที่ต้องการเชื่อมโยงการกำเนิดพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัลป์ให้สัมพันธ์กับการจุดประทีปเพื่อบูชาแม่กาเผือก โดยใช้ฟั่นเชือกสามแฉกในผางประทีป ที่เหมือนกับเท้ากา เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงแม่กาเผือก

 

บทความโดย นางสาวฐาปนีย์ เครือระยา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่